คายอ้อ ลบหลู่ ศรัทธา อาถรรพ์
- 2025
ขณะทำพิธีได้เกิดเหตุร้ายเมื่อ ชัย (อ๊อฟ สุรพล) เสียชีวิตอย่างอนาถ ทำให้ผู้คนในคณะหมอลำร่ำลือว่าเป็นเพราะมันผิดคายอ้อ เคน (เน็ค นฤพล) เริ่มสงสัยว่าการตายของชัยอาจจะมีเงื่อนงำ เริ่มค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น คำแพง (เบลล์ นิภาดา) สื่อกับวิญญาณของแม่ครูที่มาเตือนว่าอย่าให้ใครลบหลู่ความศรัทธา....หายนะในวงหมอลำเริ่มขึ้น เมื่อ เดี่ยว (กานต์ ทศน) และ แหวว (อ๋อมแอ๋ม ละมัย แสงทอง) ไม่เชื่อแล้วยังลบหลู่ความศรัทธาอย่างร้ายแรง ผู้จัดการหวัด (ตูมตาม ยุทธนา) เริ่มเห็นผีในวงหมอลำ คำแพงและเคนจับมือกันค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเชื่อ ความศรัทธา ค้นหาคำตอบ อาถรรพ์คายอ้อมีจริงหรือไม่?
คะแนนแยกตามหมวดหมู่
บทนำ
หากพูดคำว่า "คายอ้อ" ในส่วนของคนภาคอื่น ๆ อาจไม่คุ้นหูหรือไม่เคยได้ยินนัก แต่ในภาคอีสานเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่อาจเคยได้ยิน บางคนอาจเคยเข้าร่วม หรือเคยสัมผัสอยู่ของการมีคายอ้อ หากเปรียบเทียบง่าย ๆ และให้เข้าใจได้ในวงกว้างก็คือการ "รับขันธ์" การไหว้ครู หรือการฝากตัวเป็นศิษย์นั่นเอง โดยในหนังเรื่องนี้ก็ใช้ความเป็นวงหมอลำระดับตำนานอีกวงหนึ่งของเมืองไทย มาถ่ายทอดเรื่องราวของ "คายอ้อ" ในครั้งนี้ โดยเมื่อรับคายอ้อมา ก็จะมีกฎข้อพึงปฏิบัติใครได้รักษา หากผู้ใดที่รักษาคายอ้อนั้นไม่ได้ ก็จะมีการลงโทษจากครูอ้อนั้นตามความเชื่อในวัฒนธรรม
การวิเคราะห์
แต่เมื่อคายอ้อได้กลายเป็นภาพยนตร์ในครั้งนี้ ก็ยังถือว่าไปได้ไม่สุดสักทาง จะไปทางแนวสืบสาน รักษา เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรม หรือไปแนวสยองขวัญ ก็ไปได้ไม่สุดทางเท่าที่ควร กลับกลายเป็นภาพยนตร์ที่เล่าไม่เรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรให้น่าติดตามเสียเท่าไหร่ คายอ้อที่ยกมาเป็นสิ่งดำเนินเรื่อง เหมือนเป็นสิ่งบังหน้ากับแรงขับเคลื่อนจุดหลักของเรื่องเสียมากกว่า แทนที่จะเป็นสิ่งที่ใช้ความเชื่อนั้นมาดำเนินเรื่องหลัก ทำให้ช่วงแรกของหนังคนดูอาจรู้สึกว่า สรุปแล้วคายอ้อเป็นสิ่งที่ให้คุณ หรือโทษกันแน่ เพราะดูเหมือนจะมากเรื่องเสยเหลือเกินกับกฎที่มีอยู่ ตัวประเด็นหลักของเรื่องไม่ได้เดาทางยากมากมาย แต่การเลือกนำเสนอ และตัวบทที่เหมือนพยายามจะทำให้กระชับ และอาจมีการตัดทอนบางฉากออก ทำให้หนังเรื่องนี้ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรจะเป็น ประเด็นในหนังหลัก ๆ มีเพียงไม่กี่ประด็น แต่เลือกที่จะเล่าให้เหมือนไม่จบ ให้ค้างคาอยู่อย่างนั้น แล้วก็ไปเล่าประเด็นใหม่เสียแล้ว ในส่วนของการตัดต่อเรียกได้ว่า งง เลยทีเดียวเพราะในบางคราวก็ตัดไปจนทำให้เรารู้สึกว่า สรุปแล้วเรื่องในส่วนนั้นมันจบแค่นั้นจริง ๆ หรือ จังหวะทรานซิชั่นในแต่ละซีนไม่ได้มีความรู้สึกว่าหนังเป็นเรื่องเดียวกันเลย อีกทั้งเสียงประกอบในซีนแอคชั่นก็ดูแปลกหูเสียเหลือเกิน ทำให้มู้ดในตรงนี้ก็กลายเป็นตลกไปเลยทีเดียว เรื่องนี้ แอบเสียดายว่ามีผีอยู่ 2 ฝั่ง คือฝั่งของครูอ้อหมอลำ และน่าจะเป็นฝ่ายเจ้ากรรมนายเวร แต่หนังไม่ยอมบอกว่าในส่วนเจ้ากรรมนายเวรนั้นมาได้อย่างไร หรือใช่หรือไม่อย่างไร (คือจะบอกว่าผิดอ้อแล้วทำให้ผีตนนี้เข้ามาก็ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกคนเห็นผีตนนี้แทบจะทั้งหมด แต่สิ่งที่ตลกไปมากกว่านั้นคือเอฟเฟคของผีฝั่งร้ายที่ดูเป็นหน้ากากมีไฟที่ตาสะเด่นชัดเลยทีเดียว) ในส่วนนักแสดงถ้าพูดถึงเรื่องแอคติ้งเรียกว่าเกินคาด ในส่วนตัวไม่ได้คาดหวังเพราะเคยเห็นและเคยดูมาจากหลาย ๆ ครั้งเมื่อเอาเหล่าหมอลำมาเล่นหนัง บางทีก็ติดแอคติ้งหมอลำ บางทีก็เล่นใหญ่เล่นเวอร์เสียจนไม่เป็นมู้ดเดียวกัน ทุกคนรับผิดชอบบทบาทตัวเองได้ดีมาก เป็นธรรมชาติ และลื่นไหล แต่อาจมีตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องที่เมื่ออกมาแล้วรู้สึกว่าขัดกับผู้อื่น และการแสดงโดดออกจากคนอื่นไปมาก ไม่มีความเป็นธรรมชาติ แต่มีความพยายามที่จะดีไซด์คาแรคเตอร์ จนกลายเป็นว่าหาความจริงจากตัวละครตัวนี้ไม่ได้ แต่ไม่ใช่ปัญหาอย่างมากเท่าไหร่เนื่องจากก็ไม่ได้ออกซีนเยอะอะไรมากมาย และอาจเป็นปัญหาหนึ่งคือ ตัวละครเยอะมาก เข้าใจว่าพยายามอยากให้คนในวงการหมอลำมาอยู่ในหนังเรื่องนี้ให้มากที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อวงการหมอลำมีบุคลากรเยอะ ทำให้ตัวละครเยอะตามไป และแทนที่จะได้โชว์ศักยภาพ กลับกลายเป็นว่าแทบไม่จำเป็นเท่าไหร่ และบางทีบางซีนไม่ต้องมีไปเลยก็ยังได้ด้วยซ้ำ ส่วนของบทคำพูดบางคำ ประโยคบางประโยคก็เหมือนพยายามยัดมาให้พูดทำไมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ซึ่งในหนังมีอยุ่คำหนึงที่จะได้ยินบ่อยมาก ๆ คือ "ผิดคายอ้อ" เรียกได้ว่าทุกคนที่มีบทพูด แทบจะต้องพูดคำนี้ทุกคนเลยทีเดียว ทำให้บางทีก็แอบคิดในใจ จะพูดคำนี้ทำไมนักหนา ส่วนการกระจายบท อย่างที่บอกว่าเมื่อตัวละครเยอะ ก้ดูเหมือนจะวุ่นวาย ในช่วงแรกของหนังก็เหมืิอนพยายามจะเล่าเรื่องพระ-นาง มากลางเรื่องมาเล่าเรื่องของเพื่อนพระ-นาง ส่วนท้ายเรื่องข้าไปเล่าฝั่งตัวโกงแล้ว สรุป... พระนางหายไปตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง กลายเป็นตัวละครเด่นขึ้นมาแทนสะงั้น ซึ่งจริง ๆ ก็อาจไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่การโปรโมทออกไปว่าให้นักแสดง 2 คนนั้นเป็นพระนาง แต่ในหนังกลับกลายเป็นเหมือนคู่รองเลยดูแปลก ๆ แต่ในข้อเสียต่าง ๆ ก็อาจมีข้อดีอยุ่บ้างว่า ภาพเรื่องนี้ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว ตัวเพลงประกอบก็ทำออกมาได้ดี(นอกจากเซียงซาวด์ตอนต่อยกันนั่นแหละนะ) อาจมีบางจุดที่คนดูจับผิดได้บ้าง(ก้อนหินท้ายเรื่องถูกเตะปลิวสะงั้น ทั้งที่เพิ่งใช้มัน .... ไป) ในส่วนท้ายเรื่องก็ดูจะไม่เคลียร์เท่าที่ควร ว่าสิ่งนี้ คนนี้ ไปอยู่ที่นั้นได้อย่างไร แล้วทุกคนรู้ความจริงได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น
สรุป
แต่ในสุดท้าย แม้หนังจะมีจุด มีช่อง มีส่วนที่ทำให้เรามองเห็นข้อผิดพลาดมากขนาดไหน แต่ก็ถือว่าดีใจที่เห็นวงการหมอลำทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง (เคยมีอีกวงหนึ่งทำ เเต่เป็นการทำแล้วก็กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มแฟนคลับหมอลำ ในช่วงเกือบ 20 ปีก่อน) แต่ไม่ได้อย่างให้ออกตัวแรง และน้องรับคำติชมต่าง ๆ เพื่อพัฒนางานต่อไป สำหรับใครที่จะดูสามารถดูได้ไม่เสียหายอะไร เอาฟีล แต่ก็ไม่ได้อยากให้ไปกล่าวดูถูกหนังขนาดนั้น รับชม ติเตียน อย่างมีสติ เพราะสุดท้าย ความชอบคนเราก็ไม่เหมือนกัน...
เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียนเพื่อตอบกลับ